วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557

สุ่มจับปลา


    
     สุ่มเป็นเครื่องมือจับปลาน้ำจืด  ในน้ำที่ตื้น  เช่น  ตามทุ่งนา  ห้วย  หนอง       อุปกรณ์ที่ใช้  ไม้ไผ่  ลวด  หวาย  พร้า     ขั้นตอนการผลิต  นำไม้ไผ่ผ่าเป็นเสี่ยงๆเหลาให้เป็นดิ้วหลายๆ  อันยาวประมาณ  80  ซม.  ใช้ลวดหรือไม้ดัดให้โค้งเป็นวงกลม  เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ  45  ซม.  เหลาไม้ดิ้วให้แหลมทุกดิ้วแล้วนำมามัดติดกับลวดที่ดัดโค้ง  3  อัน  แต่ละดิ้วห่างกันประมาณ  1  ซม.  จนรอบเป็นวงกลม  ข้างล่างจะโตกว่าข้างบน  ส่วนข้างบนทำรูไว้สำหรับให้มือล้วงจับปลาได้  และทำขอบข้างบนให้แน่น  เสร็จแล้วนำตัวสุ่มไปลมควันไฟเพื่อให้ไม้ไผ่แห้งและแข็งแรงยิ่งขึ้น

    วิธีใช้  ใช้สุ่มกดลงไปในน้ำที่ไม่ลึกเกินตัวสุ่มในบริเวณที่คาดว่าจะมีปลาอยู่  ถ้าครอบไปถูกตัวปลา ปลาจะวิ่งชนสุ่มทำให้เกิดการสั่นสะเทือนเจ้าของปลาจะรู้ได้ทันทีว่ามีปลาอยู่ในสุ่ม  หลังจากนั้นจึงล้วงมือไปจับปลาที่อยู่ในสุ่มขึ้นมา

 

เบ็ด


    

       การวางเบ็ด มีหลายแบบ เช่น เบ็ดโยง ในหน้าแล้งจะวางเบ็ดโยงโดยผูกปลายเชือกหรือทำคันเบ็ด เพื่อหย่อนเบ็ดอยู่เหนือน้ำ มักทำในวังน้ำหรือที่ร่ม เบ็ดเผียก (ราว) ข้ามลำห้วย หน้าน้ำขึ้นใช้เหยื่อปลามีเกล็ดขนาดเล็ก หรือปลาหมอ ดักปลาผึ่ง (เทโพ) เวลาปลาบึ่งกินเบ็ดจะสังเกตได้ง่าย เพราะต้นไม้ริมฝั่งห้วยที่ผูกราวเบ็ดจะ ถูกปลาดึงขย่มสั่นไหว บางคนจะแขวนเกราะหรือกระดึงไว้เป็นสัญญาณ ถ่วงราวเบ็ดด้วยสมอหินหรืออิฐสอง สามสี่ก้อน บางครั้งใช้เหยื่อไส้เดือนสำหรับปลาทุกชนิด เบ็ดคันหรือธงเบ็ด จะใส่ตามคันนาหรือตามฝั่งห้วย ใส่ในลักษณะเบ็ดจมหรือ เบ็ดโยง (ลอย) ก็ได้ ใช้เหยื่อสำหรับการหาปลาแต่ละประเภท เช่นใช้เหยื่อปลาอีด (ตัวเล็กเท่าปปลาหางนกยูงคล้ายปลาไหลผสมปลาหลด ) สำหรับปลากด ใช้เหยื่อไส้เดือน สำหรับปลาทุกชนิด ใช้สบู่ซันไลต์ตัดเป็นท่อนเล็ก สำหรับปล่ดุก รวมทั้งเหยื่อหอย เเมงจี่ชอน (ใช้ลอยสำหรับปลาช่อน จมสำหรับปลาทุกชนิด) เขียด ฮวก ปลวก แมงเม่า กุ้ง ไส้ไก่ พุงหมู ฯลฯ เบ็ดทกหรือเบ็ดป่อมหรือตกเบ็ด เวลาตกเบ็ดต้องหาทำเลดี นั่งเฝ้ารอใส่ ทุ่นที่สายเบ็ดเวลาปลาตอดหรือฮุบเบ็ด ทุ่นจะกระดิกหรือจม ต้องทก (กระชากหรือวัดหรือยกคันเบ็ดอย่างเร็ว)ขึ้นมา บางครั้งมีการหย่อนถ้ำ คือทำเลที่มีก้อนหิน รูถ้ำโพรงหินใต้น้ำ เป็นที่อาศัยของปลา ต้องดำน้ำลงไปวางเบ็ด หย่อนลงไปในโพรงถ้ำ ปลามากินเหยื่อ ทุ่นที่สายเบ็ดจะกระดิกหรือจมลงก็สามารถยกสายเบ็ดพร้อมตัว ปลาขึ้นมาได้ การแกว่งเหลื่อมล่อปลา ใช้วิธีการติดเบ็ดไว้กับโลหะสีขาวมันวาวคล้ายๆมีดตัดเล็บ หรือคล้ายปลา ซิว แล้วใช้คันเบ็ดลำไม้ไผ่ขนาดยาว ลากไปตามสายน้ำ ให้ปลา เข้าใจว่า เป็นปลาขาวตัวเล็ก กระโดดฮุบเหยื่อคล้ายกับการใช้เบ็ดรอกตกปลาสมัยนี้ ปลา ที่ได้คือปลาสูด (ปลาที่มีเกล็ดสีขาวหรือปลากระสูบ)หรือปลากินเนื้อ

วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557

กระปุกออมสิน






กระปุกออมสิน จากไม้ไผ่
      กระปุกออมสินสามารถที่จะประยุกต์หรือสรรหามาได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะทำมาจากดิน กะลามะพร้าว หรือ กระบอกไม้ไผ่
      ในส่วนของการทำ กระปุกออมสินจากไม่ไผ่ นั้น จริงๆ แล้วเป็นผลพลอยได้จากการตัดไม้ไผ่ ซึ่งเกิดจากการตัดไม้ไผ่นำมาใช้ประโยชน์อื่นๆ เช่น ตัดมาทำบ้านเรือน เครื่องจักสาน หรือเครื่องประดับ ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะมีไม้ไผ่บางส่วนที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เหลืออยู่บ้าง ซึ่งก็เพียงแค่การหาไม้ไผ่ที่มีขนาดพอเหมาะ ตามความต้องการของแต่ละคน อาจจะขนาดเล็กบ้าง ขนาดใหญ่บ้างตามชอบ เมื่อได้มาก็ตัดหัวตัดท้ายให้เหลือเพียงแค่ปล้องเดียว แล้วก็เจาะรูที่ด้านใดด้านหนึ่งเพื่อให้สามารถใส่เหรียญหรือใส่แบงค์ลงไปได้

วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557

กระติบข้าว



กระติบข้าวเป็นของใช้ประจำบ้านที่ใช้บรรจุข้าวเหนียว ทุกครัวเรือน ทุกพื้นที่ที่รับประมานข้าวเหนียว
ประโยชน์ที่ใช้จากข้าวเหนียว
1.ใช้บรรจุข้าวเหนียว
2.เป็นของชำร่วย
3.ประดับตกแต่ง
4.กล่องอเนคประสงค์
5.กล่องออมสิน
6.แจกัน
7.กล่องใส่ดินสอ
จุดเด่น ของการสานกระติบข้าว
1. สานเป็นลวดลายต่าง ๆ หรือเป็นตัวหนังสือทั้งไทยและอังกฤษ จะได้ราคาดี
2. หาอุปกรณ์ในการทำง่าย
3. ทำให้เกิดอัตราการว่างงาน และเป็นอาชีพที่สุจริต และเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว
4. วิวัฒนาการเป็นของชำร่วยได้มากมาย เช่น กล่องใส่กระดาษชำระ กระเป๋า แจกัน
การนำเอาเทคโนโลยีมาใช้
ในการทำกระติบข้าว
1. มีการนำเอาใสไม้ไฟฟ้า ที่เลิกใช้แล้วมาดัดแปลงทำเป็นเครื่องขูดตอกที่อ่อนบาง
2. ได้นำสีย้อมไหม ใช้ในการย้อมเส้นตอกเพื่อทำลวดลาย ให้สีสันสวยงามยิ่งขึ้น
3. นำวิธีการประดิษฐ์ เป็นลายประยุกต์และตัวอักษร ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
4. มีการตกแต่งฝาบน ด้วยการทำคิ้วเพื่อความสวยงาม และคงทน
5. มีการทำเครื่องกรอด้ายไนล่อน ที่นำมาพันคิ้ว ด้วยเครื่องมือ ทำให้กรอได้เร็วและละเอียดสวยงามยิ่งขึ้น 

วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ข้อง



ขั้นตอนการผลิต 
1. ตัดไม้ไผ่บ้าน 2  ปล้อง  ( ข้องขนาดกลาง ) ยาวประมาณ  30  ซม.  นำมาจักเป็นเส้นแบนกว้างเท่ากันเส้นละ  5-6 มิลลิเมตร  เหลาไม้ไผ่ให้ปลายข้างหนึ่งแหลมเรียวประมาณ  40  เส้น ( เรียกว่าตอกชั่งทางขึ้น )
2. ตัดไม้ไผ่ประมาณ  5-6 ปล้อง  ความยาวปล้องละ  5-6  ฟุต นำมาเหลาทำเป็นตอกสานแนวนอน  สานยกแนวให้ตั้งขึ้นมาเรื่อย ๆ สูง  ประมาณ  20 ซม. จะเป็นรูปคอข้องแคบเข้าโดยรอบและสานต่อเป็นรูปปากข้องสูงพอประมาณ  ทำขอบปากข้องโดยใช้ไม้งิ้ว  ( ต้นนุ่น ) มาดัดให้เป็นวงกลมพอดีปากข้องประกบเข้ากัน  ใช้หวายรัดตัดขอบปากข้องให้แน่น  เสร็จแล้วใช้ไม้ไผ่สานงาข้อง  ( เรียกว่าปิดปากข้อง ) สานเป็นรูปกรวยลึกประมาณ  10  ซม. ทำตีนข้องทั้งสี่ด้าน  โดยนำไม้ไผ่หรือไม้เนื้อแข็งก็ได้  เหลาเสียบเข้ามุมตีนข้องทั้ง 4 ด้าน  ตีนสูงประมาณ  10  ซม.
วิธีใช้  ใช้เชือกรัดรอบคอข้องผูกรัดติดเอวเจ้าของเมื่อได้สัตว์มาก็จับยัดลงไปในข้อง  ได้เลย ถ้ากรณีเป็นข้องลอย  จะใช้เชือกยาวประมาณ  2-4  เมตร ผูกที่ข้องและเอวเจ้าของดึงลากไปมาตามทิศทางการเคลื่อนไหวของเจ้าของข้อง

ข้าวหลาม



     ข้าวหลาม เป็นอาหารชนิดหนึ่ง ซึ่งในสมัยก่อนคนไทยจะใช้กระบอกไม้ไผ่ในการหุงข้าวด้วย ข้าวที่ได้จะมีลักษณะเป็นทรงกระบอก เชื่อมกันด้วยเยื่อไผ่ทำให้เป็นรูปทรงสวยงาม แต่ในปัจจุบันนี้ คนไทยนิยมนำมารับประทานเป็นขนมหวาน โดยมีส่วนผสมคือ ข้าวเหนียว กะทิ และบางตำราจะมีการใส่ถั่วดำด้วย

    วิธีทำ
    1.นำเข้าเหนียวที่จะทำ นำไปแช่น้ำช่วงเวลาเย็น
    2. ทำการคั้นกะทิไว้ควรคั้นสดในช่วงเช้าจะดี
    3. รุ่งขึ้นตอนเช้าซาวข้าวเหนียวที่แช่ไว้นำมาใส่กะทิ น้ำตาล และเกลือ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
    4. นำข้าวเหนียวที่ผสมใส่ลงไปในกระบอกไม้ไผ่ที่ได้เตรียมไว้แล้ว ให้น้ำท่วมเมล็ดข้าวเหนียวให้เหลือพื้นที่ปากกระบอกไม้ไผ่ไว้ประมาณ 2 นิ้ว
    5. นำไปเผาไฟโดยใช้ความร้อนปานกลางเผาให้สุกอย่าให้ไฟลุกจะทำให้ไหม้กระบอก ควรเป็นลักษณะไฟถ่าน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
    6. ถ้าจะใส่ไส้สังขยาหรือถั่วดำให้เปิดจุกแล้วใช้ไม้สะอาดขนาดเท่านิ้วมือเราแทงลงไปตรงกลางข้าวหลามให้เป็นรูแล้วนำสังขยาเทใส่ ปิดฝาอุด แล้วนำไปเผาต่อให้สุกใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
    7. เมื่อสุกแล้วยกลงปอกเปลือก กระบอกไม้ไผ่ออก จะได้ข้าวหลามรสสังขยาหรือถั่วดำ หรือแม้แต่ไส้อื่น ๆ ก็ทำได้เช่นกัน